นักวิทยาศาสตร์ระดับสูงจากหน่วยงานรัฐบาลได้ออกมาแนะนำวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และได้ออกมาเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆกับบริเวณชายฝั่งในบางพื้นที่นั้นอพยพออกมาเสีย เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
เจ้าหน้าที่หัวหน้าทีมวิจัยจาก CSIRO’s Climate Adaptation Flagship, Andrew Ash ได้ให้สัมภาษณ์กับ นสพ Sydney Morning Herald ว่าพื้นที่ชายหาดบางแห่งนั้นอาจจะได้รับการป้องกันด้วยกำแพง หรือเขื่อน แต่ในบางพื้นที่นั้นไม่เหมาะอำนวยการแก่สร้างกำแพงป้องกัน หรือจะต้องใช้งบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น
หลังที่ได้มีการออกมาทำนายกันไว้ล่วงหน้าว่าสภาพอาการเกิดการเปลี่ยนแปลงในอัตตราที่เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่ง ดร Andrew กล่าวว่ารัฐบาลทั้งในระดับประเทศและส่วนภูมิภาคนั้นต้องรีบออกมาตรวจสอบพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ไม่มีความเหมาะสมต่อการปรับปรุงเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน เนื่องจากระดับน้ำที่สูงขึ้นบวกกับพายุฝนฟ้าที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม
นอกจากนี้ภาครัฐนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาการสร้างระบบสาธารณูปโภคเช่น เส้นทางลงจอดของสนามบินและสะพานในพื้นที่ราบต่ำเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมทางชายฝั่งของประเทศ
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sydney University ได้ทำการระบุตรวจสอบหาพื้นที่ราบลุ่มที่เสียงต่อการถูกน้ำท่วมซึ่งมีดังต่อไปนี้ Narrabeen, Dee Why และ Curl ในเขต Sydney North ส่วนในพื้นที่ของ Batemans Bay ไปยังตอนใต้และบางส่วนของ Byron Bay ในตอนเหนือมีโอกาสเสี่ยงอยู่บ้าง
ดร Andrew นั้นจะพยายามผลักดันให้หลายๆฝ่ายนั้นออกมารับฟังถึงปัญหาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมๆกับนักวิทยาศาสตร์อีก 500 คนไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลในกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มผู้ที่ออกนโยบาย เป็นต้น
เมื่อเดือนที่แล้วนั้นรัฐบาล New South Wales ได้ออกมานำร่างนโยบายและข้อปฎิบัติในการเตรียมตัวรับมือการระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มขึ้นมาอีก 50 ซม ภายในปี 2050 และสูงขึ้นมาอีก 90 ซม ภายในปี 2100 เพื่อเข้าปรึกษากับรัฐบาลท้องถิ่น ชุมชนและเจ้าของธุรกิจต่างๆ
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวในที่ประชุม Copenhagen ว่าตัวเลขดังกล่าวยังน้อยไป ด้วยความเป็นได้ที่ระดับน้ำทะเลจะสูงมากกว่า 1 เมตรภายในปี 2100 นั้นมีความเป็นได้สูงมาก
