อนาคตของโลกมนุษย์อาจจะต้องหันไปพึ่งพาวิทยาการที่มีความเสี่ยงและนักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่ ในการสร้างแผ่นสะท้อนแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่เพื่อลดอุณหภูมิบนโลกลง หาการเจรจาการแก้ไขปัญหาปรากฎการณ์เรือนกระจกไม่ได้ผล
จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เองได้ออกมาชี้แจงว่า หนทางสุดท้ายในการรักษาโลกมนุษย์นั้นอาจจะต้องกระทำด้วยวิธีการทางวิศวกรรมไม่ว่าจะเป็นการสร้างป่าเทียม ไมโครชิพซึ่งสร้างเมฆจากน้ำทะเล และปล่อยสารกำมะถันไปในชั้นบรรยากาศ ให้เหมือนๆกับบรรยากาศเหนือภูเขาไฟ
จากการรายงานในหัวข้อของ Geoengineering the Climate โดยหน่วยงานแนวหน้าของประเทศอังกฤษ Royal Society ในการศึกษาแผนการสำรองในรักษาโลกมนุยษ์ในสภาวะโลกร้อนนี้
#news#
หน่วยงานดังกล่าวนั้นกล่าวว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตามการลดปรากฎการณ์เรือนกะจกก็ยังคงจะต้องเป็นภารกิจอันดับหนึ่ง และจะต้องลดให้ได้ 50% ภายในปี 2050 และมากเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามความเป็นได้ที่หลายๆประเทศจะไม่สามารถร่วมกันลดได้ตามกำหนดนั้นเป็นไปได้สูง ก่อนที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นไปมากกว่านี้อีก 2 องศา
ศาตราจารย์ John Shepherd จากมหาวิทยาลัย University of Southampton เป็นหนึ่งในผู้ที่ทำการวิจัยในหัวข้อดังกล่าววิทยาการทางวิศวกรรมเป็นหนทางเดียวที่เหลือในการแก้ปัญหาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยวิธีการ ดูดเอาคาร์บอนไดออกไซด์มาทั้งหมด และวิธีการสะท้อนแสงแดดกลับไปยังอวกาศ
ต้นไม่ปลอมจะถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการกรองอากาศและแยกคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แต่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบข้างเคียงอื่นๆต่อมนุษย์โลกและระบบนิเวศน์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนอีกวิธี จะเป็นการสร้างแผ่นสะท้อนแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในกรณีสภาวะฉุกเฉิน แต่อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเท่าไรนัก
