
เป็นเวลามากว่า 20 ปีแล้วที่ประเทศออสเตรเลียนั้นได้เป็นประเทศแรกในโลกที่บังคับให้ผู้ขับขี่จักรยานทุกคนนั้นต้องใส่หมวกกันน็อค ในขณะที่นักวิจัยจาก University of Sydney กลับออกมาแดงความเห็นว่า คงจะดีกว่านี้แน่หากไม่มีกฎหมายบังคับใส่หมวกกันน็อค
ดร Chris Rissel และเพื่อนนักวิจัย จากคณะสาธารณสุข ออกมากล่าวว่าการวิจัยของพวกตนได้แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าจำนวนของประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจะน้อยลงตั้งแต่ออกกฎหมายบังคับประชาชนใส่หมวกในปี 1991 และหมวกกันน็อคเองก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คนเจ็บน้อยลง แต่เป็นมาตรการในการตรวจระดับแอกอฮอล์จากการหายใจและมาตรทางถนนอื่นๆที่ทำให้ถนนปลอดภัยมากขึ้น
#news#
ดร Chirs ท้ายให้มีการลองขี่จักรยานโดยที่ไม่ต้องใส่หมวกในเมืองเป็นเวลาสองปี เพื่อให้นักวิจัยสามารถสังเกตการณ์และดูว่าจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ รวมไปถึงการกำหนดมาตรการอื่นๆเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้จะช่วยเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ที่จะหันมาใช้จักรยานบนถนน ซึ่งก็จะทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์เองเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษอีกต่างหาก
ในการตรวจสอบจำนวนผู้ที่เข้าพบแพทย์เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แขนและที่หัวในโรงพยาบาลระหว่างปี 1988 – 2008 พบว่าเหตุการณ์ส่วนใหญ่เหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายจะถูกนำมาบังคับใช้เสียอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารใหญ่ของ Bike NSW, Omar Khalifa อธิบายว่าตนเชื่อว่าการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้มีการรวมนำเอาผู้ที่ปั่นจักรยานแล้วเกิดอุบัติเหตุแต่เนื่องจากหมวกกันน็อคได้ช่วยเอาไว้จึงไม่ต้องไปโรงพยาบาล ซึ่งก็เป็นจำนวนที่ไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้แต่อย่างใดและก็ไม่ควรนำเหตุผลเบื้องต้นมาเป็นสาเหตุในการยกเลิกกฎหมายอีกด้วย