
#news#
จากการศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่ามีพลังงานในจักรวาลที่มีสามารถทำให้เกิดการแปรปรวนแก่วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยใหญ่ในระบบสุริยะ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างโลกและดาวศุกร์หรือดาวอังคาร
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากหรือเป็นตัวเลข 1 ใน 2,500 และหากดาวเคราะห์ทั้งสองเข้าชนกันจริง เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นไปอีกจนกว่า 3.5 พันล้านปีข้างหน้า
นอกจากนี้จากการศึกษายังพบอีกด้วยว่าระบบสุริยะของโลกซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางยังคงอยู่ในสภาพเดิมโดยมีดาวเคราะห์หมุนเวียนไปรอบๆไปอีก 5 พันล้านปีข้างหน้า หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเป็นสีแดง และกลืนกินโลกมนุษย์และดาวเคราะห์ที่อยู่ในวงโคจรใกล้ๆกับดวงอาทิตย์ไม่ว่าจะเป็นดาวอังคาร ดาวศุกร์ หรือดาวพุธ
นักดาราศาสตร์นัจจุบันสามารถที่จะคำนวณการเคลื่อนไหวและความเป็นไปของดาวเคราะห์ได้อย่างแม่นยำเป็นระยะเวลาหลายร้อยหรือเป็นพันปีล่วงหน้า
นักวิจัยจาก Observatoire de Paris ออกมากล่าวว่า อย่างไรก็ตามการค้นหาความเป็นไปของกลไกความเคลื่อนไหวของหมู่ดาวเคราะห์ด้วยความแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นยังคงเป็นเรื่องที่ต้องมีการศึกษากันต่อไป และการคำนวณที่มีอยู่ในปัจจุบันเองนั้นสามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เพียงแค่ไม่กี่ สิบล้านปีข้างหน้าเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบสุริยะในระยะเวลา 5 พันล้านปีข้างหน้าซึงต่างกับการทดลองเมื่อก่อนโดยใช้ทฤษฎีของ Albert Einstein ซึ่งทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น