
จากการวิจัยในประเทศแคนาดาพบว่า ผู้ที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 1 แก้วเป็นประจำทุกวันนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง 6 ประเภทเลยทีเดียว
บทความการวิจัยทีได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Cancer Detection and Prevention เป็นการวิจัยที่มีใช้ความละเอียดเป็นอย่างมากในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุปนิสัยในการดื่มแอลกอฮอล์และโรคมะเร็ง จนพบว่าผ็ที่ชอบดื่มเบียร์และ spirit ในระดับปานกลางไปจนถึงเป็นจำนวนหลายแก้วนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ดื่มเป็นครั้งคราว
ดร Andrea Benedetti ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากภาควิชาระบาดวิทยา, ชีวิสถิติ และสุขภาพในการทำงาน จากมหาวิทยาลัย McGill University ใน Montreal ประเทศแคนาดา กล่าวเสริมว่า ผู้ที่ดื่มไวน์มีโอกาสเสี่ยงน้อยกว่าก็จริง แต่จำนวนครั้งที่ดื่มนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างแน่นอนว่าจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหรือไม่สำหรับผู้ที่ดื่มไวน์
#news#
ในการวิจัย ได้นิยามผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ ด้วยตัวเลขที่มีค่าตั้งแต่ “180 ปีดื่ม” ขึ้นไป โดยคำนวณจาก ค่าเฉลี่ยของจำนวนแก้วที่ดื่มในแต่ละวัน แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่ดื่ม ตัวอย่างเช่น หากชายผู้หนึ่งดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉลี่ยวันละ 18 แก้ว และดื่มมาเป็นเวลา 10 ปี ฉะนั้นจำนวน ปีดื่ม ของชายผู้นี้จะเท่ากับ 18 x 10 = 180
ทางทีมนักวิจัยยังได้พบอีกว่าผู้ที่ดื่มเบียร์และ spirit มากๆ (ปีดื่ม ตั้งแต่ 180 หรือมากกว่า) นั้นมีโอกาศที่จะเป็นมะเร็งตับหรือมะเร็งหลอดอาหารมากกว่าคนปรกติถึง 7 เท่า ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในลำไส้ กระเพาะและต่อมลูกหมากมีมากถึง 80% ส่วนมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้นอีก 60%
นักวิจัยได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และมะเร็ง 13 ประเภทอีกด้วย ซึ่งอย่างไรก็ตามมะเร็งทั้ง 6 ชนิดที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทางนักวิจัยมั่นใจว่าเกิดจากาการดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน แต่มะเร็ง 7 ประเภทที่เหลือ (มะเร็บตับอ่อน, ทวาร, ไต, กระเพาะปัสสาวะ, เม็ดเลือด, ต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบบแพร่กระจายเร็ว) ยังไม่มีข้อสรุปว่ามีคามสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร