ประชาชนชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่เชื่อว่าจำนวนอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลียได้เพิ่มมากขึ้นในขณะที่ความเป็นจริงนั้นไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และหลายคนยังเชื่ออีกว่าศาลไม่กำหนดบทลงโทษที่รุนแรงพอซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริง
จากการสำรวจความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมและความยุติธรรม พบว่าผู้ออกความเห็นกว่า 71% เชื่อว่าบทลงโทษทางกฎหมายในประเทศออสเตรเลียนั้นยังไม่มีความเคร่งครัดพอ ซึ่งเป็นตัวเลขที่คงที่มาตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าในการปราบปรามการก่อการร้ายรัฐบาลควรจะมีอำนาจในการคุมขังนักโทษโดยไม่มีกำหนดปล่อย ดักฟังโทรศัพท์ หรือเรียกค้นตัวประชาชนได้ตามท้องถนน
อย่างไรก็ตามจำนวนประชาชนที่เห็นด้วยกับบทลงโทษด้วยการประหารชีวิตมีจำนวนน้อยลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
ผู้จัดการสถาบัน Australian Institute of Criminology, Judy Putt กล่าวว่านักวิจัยอาชญากรรมจากทั่วโลกได้ทราบถึงความขัดแย้งกันระหว่างความเห็นของประชาชนและความเป็นจริง และ บทลงโทษของผู้กระทำผิด
ดร Judy กล่าวว่าประชาชนส่วนใหญ่นั้นต้องการให้ทางการเพิ่มกองกำลังรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น จากการสำรวจความเห็นในครั้งนี้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าอาชญากรรมได้เพิ่มมากขึ้นในระยะ 2 ปีทีผ่านมา โดย 41.7% ของผู้ออกความเห็นทั้งหมดเชื่อว่าจำนวนอาชญากรรมได้เพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมากส่วน 23.2% เชื่อว่าเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย และ 3% กล่าวว่ามีน้อยลง
สถิติของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่าจำนวน การเกิดการฆาตกรรม การบุกรุกเข้าบ้านเรือประชาชน การขโมยรถยนต์ และการโจรกรรม ได้ลดลงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนออสเตรเลียเองนั้นได้ประเมินตัวเลขของอาชญากรรมสูงไป
ประชาชนกว่า 1ใน 4 เชื่อว่าความรุนแรงเป็นสาเหตุหลักมากถึง 80% ของการเกิดอาชญากรรมในขณะที่ความเป็นจริงแล้วนั้นมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น
นอกจากนี้ผู้ออกความเห็นในการวิจัยได้ออกมาประเมินบทลงโทษผู้กระทำผิดไว้ต่ำ ในขณะที่ความเป็นจริงผู้ที่ถูกควบคุมตัวแทบแถบจะถูกตั้งข้อหาเกือบทุกคน (91-100%) ซึ่งมีประชาชนเพียงแค่ 1.8% เท่านั้นที่เชื่อว่าระบบยุติธรรมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาของการวิจัยยังได้ระบุไว้ตอนท้ายด้วยว่าความเห็นของประชาชนนั้นได้รับผลกระทบมาจากสื่อซึ่งมักจะทำให้เกิดความบิดเบือนไปจากความจริงอยู่มาก
