ชาวออสซี่ยอมป่วยมาทำงานดีกว่าถูกไล่ออก

จากการสำรวจความเห็นล่าสุดพบว่าจำนวนประชาชนชาวออสเตรเลียกว่า 25% กำลังทำให้ตัวเองนั้นมีสุขภาพแย่ลงไปเรื่อยๆเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกไม่ดี

สาเหตุดังกล่าวเป็นผลมาจากความกลัวว่าจะไม่มีงานทำหากหยุดงาน ทำให้ประชาชนจำนวน 1 ใน 61 มาทำงานทั้งๆที่ไม่สบาย ส่วนผู้ปกครอง 1 ใน 10 ให้บุตรหลานไปเรียนหนังสือทั้งๆที่ยังป่วยอยู่เพื่อที่ตนจะได้ไปทำงานได้

ผลของการสำรวจความเห็นได้มีการตีพิมพ์ลงไปใน Australian Financial Crisis Implications for Health and Research ซึ่งได้มีการรวบรวมเอาข้อมูลสรุปผลกระทบของสภาพเศรษฐกิจต่อสุขภาพของประชาชน รายงานฉบับนี้เองได้ถูกจัดทำโดย Research Australia ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มองค์กรและหน่วยงานทางสุขภาพกว่า 190 แห่ง

หัวหน้าผู้บริหารของ Research Australia, Rebecca James กล่าวว่าจากผลของการสำรวจในรายงานแสดงให้เห็นว่าประชานละเลยและไม่ใส่ใจสุขภาพตัวเองเท่าไหร่นักเพราะห่วงแต่ว่าจะไม่มีงานทำ

#news#

จากผลการสำรวจทั่วประเทศยังพบว่าลูกจ้างในประเทศออสเตรเลียกว่า 2 ล้านคนไปทำงานทั้งๆที่ตัวเองยังป่วยอยู่และกลัวที่จะต้องหยุดงาน ส่วนประชาชนในประเทศกว่า 17% เองก็ไม่ยอมไปพบแพทย์เนื่องจากไม่อยากที่จะต้องเสียเงินค่ารักษา

หัวหน้าหน่วยการแพทย์ของ BUPA Australia ดร Christine Bennett ออกมาเตือนว่าความกังวลว่าจะตกงานโดยที่ไม่ดูแลสุขภาพตัวเองอาจทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงในระยะยาวได้ในเวลาต่อมา

ส่วนการส่งลูกหลานที่ไม่สบายไปโรงเรียนเพราะตนต้องไปทำงานนั้น ดร Christine กล่าวว่าได้เป็นสิ่งที่นายจ้างทั้งหลายควรจะพิจารณาไม่ให้มีการทำโทษหากลูกจ้างมีความจำเป็นจะต้องหยุดงานเพื่อดูแลลูก

ในรายงานยังได้แจ้งว่า ในช่วงวิกฤตการณ์เช่นนี้ได้มีผู้ที่เป็นโรคอ้วน ปัญหสุขภาพจิตและ อาการป่วยซ้ำซ้อน รวมไปถึงการดื่มสุรา มีมากขึ้นตามมาอีกด้วยเช่นเดียวกัน