
จำนวนของประชาชนชาวออสเตรเลียที่ติดเชื้อเอดส์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นมา 5% ในปีที่ผ่านมา และในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากว่า 10,000 คนในรัฐ New South Wales ส่วน 1 ใน 3 ของผู้ป่วยนั้นมีฐานะยากจน
จากตัวเลขที่ถูกนำมาเปิดเผยโดย Bobby Goldsmith Foundation แสดงให้เห็นว่าประชาชนมากกว่า 400 คนในรัฐ NSW นั้นติดเชื้อเอดส์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งขึ้นมาเป็นจำนวนทั้งหมด 5% ในแต่ละปีเป็นเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา
ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี 1984 และ 1994 ที่โรคเอดส์เริ่มแพร่ระบาดมากขึ้น ทางองค์กร Bobby Goldsmith Foundation ได้ช่วยประชาชนมากว่า 1,400 คน และจนถึงทุกวันนี้ทางองค์กรยังได้ให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อจำนวนดังกล่าวอยู่เป็นเวลาทุกๆปี
ในขณะที่ได้มีการพัฒนาตัวยาต่อต้านไวรัสกลางปี 1990s และทำให้การรักษาผู้ป่วยนั้นมีความหวังมากขึ้น แต่ในปัจจุบันนั้นก็ยังไม่มีตัวยาที่สามารถรักษาให้หายขาดแต่อย่างใด จำนวนผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ในปัจจุบันนั้นมีมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน องค์กรให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นจำนวน 1,200 คนคิดเป็นผู้ชายกว่า 91% ผู้หญิง 8% และอีก 1% เป็นผู้ชายที่แปลงเพศแล้ว
ผู้ป่วยจำนวน 9 ใน 10 คนนั้นมีฐานะยากจน และทางองค์กรเองก็มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ค่อยจะมีเงินมากนัก ผู้บริหารของ Bobby Goldsmith Foundation, Bev Lange ออกมากล่าวว่าตนนั้นหวังเป็นอย่างที่ประชาชนจะตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องตัวเองจากเอดส์ หลังจาดที่ได้เฉลิมฉลองงาน Mardi Gras ไปแล้ว
จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรมมีอายุระหว่าง 40 – 60 ปี และเด็กที่สุดอายุ 8 ปี