
รัฐบาลกังวลกลัวประชาชนชาวออสเตรเลียเสียชีวิตเพิ่ม หลังจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 42 คนในเหตุการณ์ก่อการร้ายในโรงแรมประเทศอินโดนีเชียรัฐบาลประเทศออสเตรเลียได้พยายามตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตว่าใช่ชาวออสเตรเลียหรือไม่ หลังจากข่าวรายงานมาว่าได้มีชาวออสเตรเลียเสียชีวิตทั้งหมด 3 คน
นายกรัฐมนตรี Kevin Rudd ได้กล่าวในที่ประชุมสื่อว่าตนนั้นกลัวว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตและประชาชนอีกสองคนชาวออสเตรเลียนั้นได้เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวที่กรุง Jakarta
ทางการเชื่อว่านักธุรกิจจาก Perth, Nathan Verity เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การก่อการร้าย ซึ่งนาย Kevin Rudd กล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อนของผู้เสียชีวิต Jim Truscott กล่าวว่า Nathan เปิดกิจการบริษัททางทรัพยากรบุคคลใน Jakarta แต่ได้อาศัยอยู่ใน Perth กับภรรยาและบุตรชายอายุ 5 ปี เพียงแต่เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเชียเป็นครั้งคราวโดยเกี่ยวกับงานทั้งสิ้น
Jim กล่าวว่าตนนั้นไม่ทราบว่า Nathan เสียชีวิตอย่างไรแต่สภาพศพอยู่ในสภาพดีโดยไม่มีอวัยวะส่วนใดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่อาจจะเสียชีวิตจากแรงระเบิด
ส่วนผู้เสียชีวิตคนที่สองเป็นเจ้าหน้าที่ทางการค้าของประเทศออสเตรเลีย Craig Senger ที่กำลังเข้าร่วมการประชุมที่โรงแรม Marriott Hotel ก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้น
#news#
แหล่งข่าวยังได้แจ้งไปยัง news.com.au ด้วยว่า Craig นั้นไม่ได้เป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้ที่จะต้องเข้าร่วมในการประชุมซึ่งมี นักลอบบี้ทางการเมืองจากสหรัฐ James Castle นั้นเป็นเจ้าภาพ จึงทำให้ทางการเข้าในว่า Craig ได้หายตัวสาบสูญหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น
ทางสถานทูตออสเตรเลียนั้นไม่ได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นแต่อย่างใดจนกระทั่งเห็นร่างของ Craig อยู่บนเปลหามร่าง ผ่านทางรายการข่าวของอินโดนีเชียvจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์การก่อการร้ายที่ประเทศอินโดนีเชียมีทั้งหมด 8 รายส่วนประชาชนอีก 42 คนได้รับบาดเจ็บซึ่งมีชาวต่างชาติจำนวน 13 คน
นาย Kevin Rudd ออกมากล่าวต่อไปว่าร้านอาหารเป็นพื้นที่หลักที่ได้รับความเสียหายและมีความเป็นไปได้สูงว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นไปอีก
ทางการยังได้แจ้งไปยังโรงพยาบาลในประเทศออสเตรเลียให้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นอีกหากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีมากขึ้น
อย่างไรก็ตามนาย Kevin Rudd ออกมากล่าวว่าถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ไปยังผู้กระทำผิดคนใดแต่อย่างใด ซึ่งแม้แต่หน่วยงานข่าวกรองพิเศษของออสเตรเลียเองก็ยังไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายในครั้งนี้