จากการวิจัยในยุโรปพบว่าอาหารที่ปรุงมาเป็นเวลานานและถูกบรรจุเก็บอยู่ในขวดโหลนั้นมีสารเคมีที่มีอนุภาพทำให้พลาสติกนั้นอ่อนตัวลงปนเปื้อนอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ตามที่ได้ถูกกำหนดไว้ในมาตรฐานของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
จากการวิจัยของกลุ่มปกป้องผู้บริโภค Choice ได้พบว่า อาหารที่ถูกเก็บไว้เป็นเวลานานและมีปริมาณไขมันสูงในภาชนะบรรจุ ที่ฝาอยู่ในสภาพชำรุดมีสารปนเปื้อนประเภทพลาสติกอยู่มาก ซึ่งเป็นตัวทำให้ฝายางนั้นมีความอ่อนตัวมากขึ้นอาหารประเภทที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมสูงนั้นสามารถดูดซับปริมาณสารพลาสติกดังกล่าวได้มาก
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดสอบสินค้าอาหารในบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวจำนวน 25 ประเภทและได้พบว่า สินค้า 13 ประเภทนั้นมีปริมาณสารพลาสติกสูงเกินกว่าที่ EU ได้กำหนดไว้
ส่วนในประเทศออสเตรเลียนั้นผู้ผลิตได้เรียกคืนสินค้าสองชนิดเป็นเรียบร้อยในขณะที่กำลังอยู่ในการสอบสวนหาปริมาณสารพลาสติกอยู่ในขณะที่ประเทศอื่นๆได้ออกมาตั้งข้อสอบถามไปยังผู้ผลิตและเรียกร้องให้องค์กรควบคุมอาหารเช่น Tasman และ Food Standards Australia New Zealand ออกมากำหนดมาตรการซึ่งในปัจจุบันนี้นั้นยังไม่ได้มีการกำหนดระดับของสารเคมีดังกล่าวออกมา อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Choice, Christopher Zinn ได้ออกมากล่าวว่าทางออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้นควรจะปฏิบัติตามมาตรฐานของ EU ซึ่งสามารถคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคได้
ผลการทดลองจากห้องแลปได้ตรวจหาสารพลาสติกต่างทั้งๆที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ด้วย สินค้าประเภทอาหาร 5 ชนิดจากประเทศอิตาลีได้ตรวจพบว่ามีสารพลาสติกเป็นปริมาณสูงมาก แต่สำหรับในอาหารที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมนั้นมีอัตราการเสี่ยงน้อยกว่าและสำหรับภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่เป็นฝาใดๆก็ตามที่ไม่ใช่ยาง และหากผู้บริโภคที่ต้องการจะลดระดับความเสี่ยงนั้นควรจะรับประทานอาหารจากบรรจุภัณฑ์ขวดโหลที่มีปริมาณไขมันอยู่น้อยและไม่ได้สัมผัสอยู่กลับฝาภาชนะเองด้วย