การท่องเที่ยวในประเทศออสเตรเลียลดลง

จากสถิติการท่องเที่ยวของ The Tourism Forecasting Committee พบว่าการท่องเที่ยวในสไตล์ครอบครัวของประชาชนชาวออสซี่ในช่วงวันหยุดนั้นเริ่มคงที่ และจะมีบูมมากขึ้นไปอีกกว่านี่ในเวลาอีกสิบปีข้างหน้าเนื่องจากชาวออสซี่ไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้น

การท่องเที่ยวภายในประเทศจะถึงจุดต่ำสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาตั้งแต่ในปี 90 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียในประเทศลดลงไปเป็น 261 ล้านคนหรือที่คิดเป็นจำนวน 13% ที่ลดลงมาตั้งแต่ในปี 2002 เมื่อการท่องเที่ยวในประเทศถึงจุดสูงสุด

จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปคิดเป็นจำนวนเงินสะพัดเข้ามาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกว่า 2.5 พันล้านเหรียญจากค่าที่พัก อาหาร ทัวร์ และสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ ในปีนี้

การแข่งขันกันทางราคาของตั๋วเครื่องบินในปัจจุบันส่งผลให้เกิดรูปแบบการท่องเที่ยวทั้งในระยะสั้นและยาว ทำให้ความหวังที่จะนำรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศออกมาชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่หายไป

#news#

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะเข้าเดินทางมาเที่ยวในประเทศออสเตรเลียน้อยลง 200,000 คนในปีนี้ ก่อนที่เพิ่มขึ้นมาอีก 3% ในปีหน้า

อย่างไรก็ตามทาง The Tourism Forecasting Committee ได้ทำนายไว้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะลดน้อยลงเนื่องจากกลุ่มประชากรผู้สูงอายุตัดสินใจที่จะอยู่กับบ้านช่องมากขึ้น ถึงแม้ว่ากลุ่มนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวตัวยงก็ตาม แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อเงินเก็บของพวกเขาเหล่านี้

นอกจากนี้ทาง Committee ออกมากล่าวอีกว่าภายในระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้าประชาชนกว่าอีก 2.5 ล้านคนจะออกเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ จากจำนวนเดิมกว่า 5.8 ล้านคนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศอยู่แล้ว

เอเจ้นท์ท่องเที่ยวเองอย่าง Flight Center ออกมากล่าวว่าจำนวนประชาชนชาวออสเตรเลียเดินทางออกไปเทียวต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากตั๋วเครื่องบินมีราคาถุกลงเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นตั๋วไปทวีปยุโรปซึ่งราคาลดลงกว่า 40% หรือแม้แต่ตั่งเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งแข่งกันออกมาลดกันอย่างเชือดเฉือนจนราต่ำกว่า 1,000 เหรียญเสียอีก

ทางกลุ่ม Australian Hotels Association ออกมากล่าวว่าสมาชิกของกลุ่มใน Sydney และ Cairns ต้องพึ่งพาอาศัยนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ได้รับผลกระทบมากที่สุด และหากรัฐบาลไม่ได้นำเงินออกมาแจกให้กับประชาชน จำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะลดลงไปมากกว่านี้